ย้อนกลับไปในปี 2021 ปีกตัวจี๊ดรายนี้เคยเป็นเจ้าของสถิตินักเตะชาวอังกฤษ ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากที่ทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ ควักเงินกว่า 100 ล้านปอนด์ ไปกระชากตัวเขามาจาก แอสตัน วิลล่า

กรีลิช ประสบความสำเร็จอย่างมากในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เขาได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับทีม 3 สมัย รวมไปถึงคว้าโทรฟี่อื่น ๆ ทั้ง เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ซูเปอร์ คัพ และชิงแชมป์สโมสรโลก 

ถึงแม้ว่าลีลาการฉลองแชมป์ยุโรปของเขา ที่เมาในชุดแข่งขันจนถึงเช้า รวมกับภาพเมาจนเดินเซคอพับคออ่อนของเขา จะเป็นภาพที่ติดตลกจนติดตาของใครหลายคน แต่ต้องไม่ลืมว่าลีลาในสนามของเขา ก็พริ้วไหวไม่แพ้ใคร

อย่างไรก็ตามการที่เขาไม่ได้ดูตนเองนอกสนามได้ดีเท่าไหร่ นั่นก็เหมือนกับว่าเขาจะเริ่มไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ฤดูกาลนี้เขาอาจได้สัมผัสสนาม 26 นัด แต่ว่าก็ได้ลงเล่นเต็มเวลาแค่เกมฟุตบอลถ้วยในประเทศ กลับกันใน พรีเมียร์ลีก เขามีเวลาลงเฉลี่ยแค่นัดละ 37 นาทีเท่านั้น สิ่งนี้เองบ่งบอกสถานะของเขาได้เป็นอย่างดี ว่าไม่ใช่ตัวจริงของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกต่อไป

นี่ถือเป็นฤดูกาลที่ล้มเหลวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ การหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งฤดูกาล ผนวกกับไม่ได้เล่นรอบน็อคเอาท์ แชมเปียนส์ลีก บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทีมจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ปัจจุบันทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ มีปีกตัวจี๊ดที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในอนาคตอยู่ทั้ง เฌเรมี่ โดกู, ซาวินโญ่ รวมไปถึงนักเตะใหม่อย่าง โอมาร์ มาร์มูช และต้องไม่ลืมว่าทีมชุดนี้มีแนวรุกที่จองตัวจริงไปแล้วอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา ส่งผลให้เป็นเรื่องยากที่ ปีกขี้เมารายนี้ จะกลับมาเป็นคนสำคัญในทีม เหมือนที่เคยผ่านมา

ครั้งหนึ่ง กรีลิช เคยเป็นคนสำสัญของ แอสตัน วิลล่า ในระดับที่เป็นนักเตะระดับปรากฎการณ์ของทั้งสโมสร และทีมชาติอังกฤษ โดยทัพ ‘สิงห์ผงาด’ ซื้อใจเจ้าตัวด้วยการให้เป็นเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่ปี 2015 ในขณะที่มีอายุเพียงแค่ 20 ปี

และถึงแม้ว่าทีมจะตกชั้นในปี 2016 ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างเข้ามารุมจีบเจ้าตัว แต่ด้วยจิตวิญญาณที่เขาขายให้กับสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ก็ทำให้เขาเลือกที่จะต่อสู้ในลีก แชมเปี้ยนชิพ ไปด้วยกันกับทีมในวัยเด็ก และสามารถพาทีมกลับขึ้นมา พรีเมียร์ลีก ในอีก 2 ปีต่อมา

เขาทำทุกอย่างเพื่อ แอสตัน วิลล่า มาโดยเสมอ เพราะแม้แต่การย้ายออกจากทีม ก็ยังทำให้ทีมของเขาในวัยเด็กได้รับเงินหลัก 100 ล้านปอนด์ ซึ่งการซื้อขายในครั้งนั้นถือว่าเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย แมนฯ ซิตี้ ได้นักเตะฝีเท้าเยี่ยมจนทำให้ขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่อยู่หลายปี แอสตัน วิลล่า เองก็ได้เม็ดเงินมาต่อยอดจนปัจจุบันมีลุ้นแชมป์ยุโรปอีกครั้ง ส่วนตัว กรีลิช ก็ได้สัมผัสโทรฟี่มากมายแบบที่นักเตะระดับเขาควรได้มันมา

สัญญาของเขายังเหลืออยู่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม อีกถึง 2 ฤดูกาล ดังนั้นการกลับไปค้าให้กับทัพ ‘สิงห์ผงาด’ คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าหาข้อตกลงร่วมกันได้ เชื่อเหลือเกินว่ามันจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายอีกครั้ง เหมือนที่เคยเป็นมา

ต้องมารอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้ว แจ็ค กรีลิช จะได้กลับใส่สวมเครื่องแบบสีเลือดหมู ในอนาคตหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือหัวใจของเขา ยังคงมอบให้กับ แอสตัน วิลล่า

เขียนโดย LS Sport 

ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง